หนึ่งในคำถามของเพื่อนๆยอดนิยม ไม่พ้นวัสดุของกรอบแว่น เลือกไม่ถูก เพราะการเลือกกรอบแว่นสำคัญไม่แพ้กัน ต้องเลือกแว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้งานและกิจกรรมต่างๆ กรอบแว่นมีหลากหลายวัสดุ แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติ ข้อดีข้อเสีย และความเหมาะสมกับกิจกรรมที่แตกต่างกันไปครับบ ….. จำไว้นะแว่นที่ดีคือแว่นที่เหมาะกับไลพ์สไตล์เรา !!

วัสดุกรอบแว่นยอดนิยม และกิจกรรมที่เหมาะสม

1. กรอบแว่นโพลีคาร์บอน (Polycarbon)

คุณสมบัติ: เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยข้อดีหลายประการ เช่น

• น้ำหนักเบา: สวมใส่สบาย ไม่กดทับจมูกหรือใบหู
• หลากหลายสีสันและดีไซน์: มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สีสันสดใส ลวดลายแฟชั่น ไปจนถึงดีไซน์เรียบหรู
• ราคาไม่แพง: เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแว่นตาแฟชั่น หรือมีงบประมาณจำกัด
• ทนทานในระดับหนึ่ง : ทนทานต่อแรงกระแทกในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจแตกหักได้หากโดนแรงกระแทกมาก
• บางชนิดมีความยืดหยุ่น : โพลีคาร์บอนบางชนิด เช่น Acetate มีความยืดหยุ่น ทำให้ปรับแต่งทรงได้เล็กน้อย และสวมใส่สบายยิ่งขึ้น

ประเภทของกลุ่มโพลีคาร์บอนที่นิยม

• Acetate (อะซิเตท) : ได้คุณภาพสูง ทำจากเซลลูโลสอะซิเตทจากพืช มีความทนทาน ยืดหยุ่น และสีสันสวยงาม เป็นที่นิยมในแว่นแบรนด์เนม
• Zyl (ไซล์ หรือ เซลลูโลสอะซิเตท) : คล้ายอะซิเตท แต่คุณภาพอาจรองลงมาเล็กน้อย มักใช้ในแว่นแฟชั่นทั่วไป
• Optyl (ออพทิล) : พลาสติกพิเศษของแบรนด์ Safilo น้ำหนักเบา ทนทาน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
• Nylon/Polyamide (ไนลอน/โพลีอะมายด์) : มีความยืดหยุ่นสูงมาก ทนทานต่อแรงกระแทกและความร้อน มักใช้ในแว่นกีฬา หรือแว่นที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
• TR90 (ทีอาร์90) : น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ทนทาน และปลอดภัยจากสาร BPA เป็นที่นิยมในแว่นเด็ก และแว่นที่เน้นความปลอดภัย

กิจกรรมที่เหมาะสมของโพลีคาร์บอน

• กิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน: เหมาะสำหรับใส่ทำงาน เรียนหนังสือ เดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมที่ไม่หนักหน่วงมากนัก
• แฟชั่น: ด้วยสีสันและดีไซน์ที่หลากหลาย กรอบพลาสติกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแว่นตาที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัว
• แว่นสำหรับเด็ก: พลาสติก TR90 หรือ Nylon ที่มีความปลอดภัย ยืดหยุ่น และทนทาน เหมาะสำหรับเด็กที่อาจทำแว่นตกหล่น หรือโดนกระแทก

2. กรอบแว่นโลหะ (Metal)

คุณสมบัติ : กรอบโลหะมีข้อดีในเรื่องความแข็งแรงทนทาน และสไตล์ที่ดูเรียบหรู คลาสสิก

• ทนทาน: โลหะมีความแข็งแรง ทนทานต่อการบิดงอ หรือแตกหักได้ดีกว่าพลาสติก (ยกเว้นโดนแรงกระแทกมากๆ)
• ดีไซน์เรียบหรู คลาสสิก: มักมีดีไซน์ที่ดูบางเบา มินิมอล เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสไตล์เรียบง่าย หรือต้องการความเป็นทางการ
• น้ำหนักเบา (โลหะบางชนิด): โลหะบางชนิด เช่น ไทเทเนียม มีน้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่สบาย
• ปรับแต่งทรงได้: สามารถดัด ปรับแต่งทรงให้เข้ากับรูปหน้าได้ง่ายกว่าพลาสติก

ประเภทของโลหะที่นิยมใช้

• Titanium (ไทเทเนียม) : โลหะคุณภาพสูง น้ำหนักเบามาก แข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ แต่ราคาสูง
• Stainless Steel (สแตนเลส สตีล) : โลหะที่ได้รับความนิยม ทนทาน ไม่เป็นสนิม ราคาปานกลาง
• Aluminium (อะลูมิเนียม) : น้ำหนักเบา แต่ความแข็งแรงอาจน้อยกว่าโลหะชนิดอื่น มักใช้ในกรอบแว่นแฟชั่น หรือแว่นกันแดด

กิจกรรมที่เหมาะสม

• ทำงาน หรือโอกาสที่ต้องการความเป็นทางการ : กรอบโลหะดีไซน์เรียบหรู ช่วยเสริมบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ
• ผู้ที่ต้องการความทนทาน : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแว่นตาที่ใช้งานได้นาน ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
• ผู้ที่มีเหงื่อออกง่าย หรืออยู่ในสภาพอากาศชื้น : โลหะบางชนิด เช่น ไทเทเนียม หรือสแตนเลส ไม่เป็นสนิมง่าย

3. กรอบแว่นวัสดุผสม (Mixed Materials)

คุณสมบัติ: กรอบแว่นวัสดุผสม คือการนำวัสดุตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น เช่น

• ผสมผสานข้อดีของวัสดุแต่ละชนิด: เช่น กรอบหน้าเป็นโพลีคาร์บอนสีสันสวยงาม ขาแว่นเป็นโลหะเพื่อความแข็งแรง
• ดีไซน์ที่หลากหลายและน่าสนใจ : การผสมผสานวัสดุทำให้เกิดดีไซน์ที่แปลกใหม่ และมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น
• น้ำหนักเบาและทนทาน : ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผสมผสานกัน แต่โดยรวมมักมีน้ำหนักเบาและทนทานในระดับที่ดี

ตัวอย่างวัสดุผสมที่นิยมใช้

• พลาสติก + โลหะ: กรอบหน้าโพลีคาร์บอน ขาแว่นโลหะ หรือกรอบหน้าโลหะ ขาแว่นโพลีคาร์บอน
• โพลีคาร์บอน + ยาง : มักใช้ในแว่นกีฬา หรือแว่นที่เน้นความกระชับในการสวมใส่
• โลหะ + ไม้/ไม้ไผ่: ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ และมีความเป็นเอกลักษณ์

กิจกรรมที่เหมาะสม

• กิจกรรมหลากหลาย : ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ผสมผสานกัน หากเน้นพลาสติกก็จะเหมาะกับกิจกรรมทั่วไป หากเน้นโลหะก็จะเหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความทนทาน
• แฟชั่น : กรอบวัสดุผสมมักมีดีไซน์ที่โดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแว่นตาที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร
• กีฬา : หากผสมผสานโพลีคาร์บอนและยาง จะเหมาะกับกิจกรรมกีฬาที่ต้องการความกระชับ และทนทาน

4. กรอบแว่นวัสดุธรรมชาติ (Natural Materials)

คุณสมบัติ: กรอบแว่นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ไม้ไผ่ หรือเขาสัตว์ เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์

• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : ใช้วัสดุจากธรรมชาติ หรือวัสดุรีไซเคิล
• ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ : ลวดลายและสีสันของวัสดุธรรมชาติแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ทำให้แว่นแต่ละอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
• น้ำหนักเบา (บางชนิด): ไม้มักมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
• อาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ : วัสดุธรรมชาติบางชนิดอาจต้องการการดูแลรักษามากกว่าวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไม้อาจต้องระวังเรื่องความชื้น และการกระแทก

ประเภทของวัสดุธรรมชาติที่นิยมใช้

• ไม้ : ไม้ชนิดต่างๆ เช่น ไม้ไผ่ ไม้มะเกลือ ไม้สัก ให้ลุคที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ
• ไม้ไผ่ : น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• เขาสัตว์ (Horn) : วัสดุหรูหราจากธรรมชาติ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ราคาสูง

กิจกรรมที่เหมาะสม

• กิจกรรมที่ไม่หนักหน่วงมากนัก : เหมาะสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน เดินเล่น หรือทำกิจกรรมที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง หรือแรงกระแทกมากนัก
• ผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม : ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• ผู้ที่ชอบสไตล์ที่เป็นธรรมชาติ และไม่ซ้ำใคร : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแว่นตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกวัสดุกรอบแว่น :

• พิจารณากิจกรรมหลัก : หากเน้นกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกีฬา ควรเลือกกรอบที่ทนทาน ยืดหยุ่น และกระชับ เช่น โพลีคาร์บอนแบบ Nylon/TR90 ถ้าเป็น Oakley จะเรียกว่า O-Matter
• รูปทรงใบหน้า : เลือกกรอบที่เข้ากับรูปหน้า เพื่อความสวยงาม และความสบายในการสวมใส่
• ความสบายในการสวมใส่ : ดูว่าน้ำหนัก ความกระชับ ดีไซน์เฉพาะคนเอเชีย
• งบประมาณ : วัสดุแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกันไป กำหนดงบประมาณในใจก่อนเลือกซื้อ
• สไตล์ส่วนตัว : เลือกกรอบที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัว และบุคลิกภาพของคุณ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกวัสดุกรอบแว่นที่เหมาะสมกับคุณนะครับ

korakod.s

All Author Posts